เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๑๘ ก.ค. ๒๕๕๘

 

เทศน์เช้า วันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๘
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

อ้าว ตั้งใจฟังธรรมะ เราต้องฟังธรรมเพื่อเตือนตัวเองนะให้จิตใจมันชุ่มชื่น ให้จิตใจชื่นบาน ให้จิตใจเผชิญกับวิกฤติได้ เวลาวิกฤติภัยแล้งชาวนาก็ฆ่าตัวตาย น้ำท่วมชาวนาก็ฆ่าตัวตาย เวลามันเกิดภัยวิกฤติต่างๆ ชาวนาก็ฆ่าตัวตาย ทำไมเขาทำอย่างนั้นล่ะ เพราะความทุกข์มันบีบคั้นหัวใจเขาไง วิกฤติมันบีบคั้นหัวใจเขา เขาไม่มีทางออก เขาทำลายตัวเขาเองเพราะเขาหาทางออกไม่ได้ แต่ถ้าเราฟังธรรมๆ ฟังธรรมเพื่อเหตุนี้ มันวิกฤติขนาดไหนมันก็รู้ว่าวิกฤตินะ

แล้ววิกฤติมันไม่ใช่มีเฉพาะสมัยนี้ไง สมัยพุทธกาลนะเวลาข้าวยากหมากแพง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปบิณฑบาตกับเขา เขาก็ทุกข์เขาก็ยากเขาทำอย่างไร ไม่มีใครใส่บาตร พอดีบังเอิญว่าเขามีพ่อค้าโคต่างมา เขาค้ามามันก็มีข้าวกล้องเขาไว้เลี้ยงม้าเขา เขาก็เอาอาหารนั้นน่ะใส่บาตรพระ ม้ากินมื้อหนึ่งเท่าไรก็ให้พระองค์ละเท่านั้น ได้ข้าวกล้องมาองค์ละหนึ่งทะนาน เวลาได้ข้าวกล้องมาองค์ละหนึ่งทะนาน ภิกษุทำอาหารให้สุกเองไม่ได้ พระอานนท์เอามาบดนะ บดทำให้เป็นแป้งแล้วเอาน้ำพรมๆ ถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

พระโมคคัลลานะมีฤทธิ์มีเดชมาก ทนไม่ไหว ข้าพเจ้าจะพาพระไปบิณฑบาตอีกทวีปหนึ่ง เพราะอีกทวีปหนึ่ง ดูสิเวลาเกิดภัยแล้งขึ้นมา ภัยแล้งทวีปหนึ่งมันจะแห้งแล้ง อีกทวีปหนึ่งมันจะอุดมสมบูรณ์ มันจะเปลี่ยนแปลงของมันอยู่กับสภาวะอากาศ พระโมคคัลลานะทนไม่ได้จะพาพระไปบิณฑบาตนะ แล้วพระโมคคัลลานะก็เหาะไปได้ พระพุทธเจ้าก็รู้ พระโมคคัลลานะพูดกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านต้องเข้าใจสิ เขาต้องรู้ว่าพระโมคคัลลานะทำได้ แล้วท่านก็ถาม แล้วพระที่บวชใหม่ๆ พระที่ธุดงค์มาด้วยกันมันไปไม่ได้ทำอย่างไร ข้าพเจ้าจะจับมือต่อๆๆ กันไป ข้าพเจ้าจะเหาะแล้วก็ลากไปหมดเลย องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกไม่ได้ ทำอย่างนั้นไม่ได้ๆ ก็ทน ภัยพิบัติต่างๆ ท่านก็ทนมาจนออกพรรษา เวลาออกพรรษาแล้ว พราหมณ์ที่นิมนต์ไว้ก็เพิ่งนึกได้ เพราะมารมันดลใจ ไปขอขมาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วก็นิมนต์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าไปฉันในที่พักของเขา

นี่ไงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกกับพระด้วยกัน เธอชนะแล้ว เธอชนะแล้ว ชนะความอดความอยาก ชนะความทุกข์ความยาก ชนะหัวใจของตัว หัวใจของตัวมันยังรักษามาได้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าเราชนะแล้ว ภัยพิบัติถึงเวลาแล้วมันอนิจจัง แล้วมันเปลี่ยนแปลงไป มันเป็นอนิจจัง ถ้าเราฟังธรรมๆ ฟังเพื่อเหตุนี้ไง มันจะทุกข์มันจะยากเราก็รู้ว่ามันก็ทุกข์มันก็ยาก มันทุกข์มันยาก แต่มันทุกข์มันยากมันทุกข์ยากเฉพาะเราคนเดียวล่ะ

มันทุกข์ยาก ดูสิสภาคกรรมเป็นทั่วไปหมดเลย แล้วไม่ใช่เฉพาะในเมืองไทย มันเป็นทั้งทวีป มันเป็นไปหมดเลย มันเป็นไปหมดเลยนะ ถ้าเรามีน้ำใจต่อกัน เราช่วยเหลือเจือจานกัน นั้นเป็นการช่วยเหลือเจือจานทางโลก แล้วฟังธรรมๆ ฟังธรรมเพื่อเหตุใดล่ะ ฟังธรรมๆ ให้จิตใจ ดูสิเขาทำธุรกิจกัน ถ้าสายป่านใครยาว เจอวิกฤติต่างๆ เขามีสายป่าน เขารักษาธุรกิจของเขาได้ แต่สายป่านเราสั้น เราทำสิ่งใดเราต้องตัดธุรกิจของเราขายออกไปเพื่อสภาพคล่องของเรา ต้องทำของเราให้ได้

สายป่านสั้น สายป่านยาวเพราะอะไร เพราะอำนาจวาสนาของคน ฟังธรรมๆ ฟังธรรมเพราะเหตุนี้ไง ถ้าหัวใจของเรามีหลักมีเกณฑ์ขึ้นมา สายป่านเรายาวเราทนได้ เรารักษาได้ ความบีบคั้นเราทนของเราได้ เรารักษาใจของเราได้ สายป่านของเรายาว แล้วสายป่านสั้นล่ะ สายป่านสั้นของเขา ดูสิมีสิ่งใดกระทบออกไป จิตใจมันก็ว้าวุ่นไปหมด สายป่านเขาสั้น แล้วสายป่านสั้น สายป่ายยาวทำอย่างไหนล่ะ ทำธุรกิจของเขาเขาก็สะสมทรัพย์สมบัติของเขามา เขาเก็บออมของเขามาสายป่านของเขาก็ยาว เพราะเขาเก็บออมของเขามา ไอ้เราใช้จ่ายฟุ่มเฟือยขึ้นมาแล้วบอกเราจะมีเงินทอง เราไม่ได้เก็บออมของเรามา

นี่ก็เหมือนกัน หัวใจของเราเราได้ทำบุญกุศลของเรามา ฟังธรรมๆ เพื่อฝึกฝนหัวใจของเราไง มันต้องฝึกฝน มันต้องทำใจของเรา ดูแลหัวใจของเรา ถ้าดูแลหัวใจของเรานะ ดูสิเราเห็นกันเงียบๆ เขายิ้มแย้มแจ่มใส แต่ในหัวใจมันอกตรม หน้าชื่นอกตรม เขาเก็บของเขาไว้ในใจของเขา เวลามันฟิวส์ขาด เวลามันแสดงออกมา เราไม่เข้าใจเลยว่าเขามีความทุกข์ในหัวใจ แต่ของเรา เราก็รักษาใจเราไง เราดูแลหัวใจของเรา สัจธรรมๆ มันจะช่วยชโลมหัวใจของเรา

แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง แผ่นดินทอง แผ่นดินทองก็แสวงหากันมาเพื่อประโยชน์กับปัจจัยเครื่องอาศัย แผ่นดินธรรมๆ เราเจือจานกัน เราแบ่งปันกัน เราดูแลกัน เห็นใจ เห็นใจ แต่ความเห็นใจแล้ว เห็นใจแล้วเอาอะไรไปช่วยเหลือเขาล่ะ เห็นใจทำอย่างไรได้ล่ะ เวลาความทุกข์ เวลาคนอื่นเขาทุกข์เขายาก เขาทุกข์ยากเขาทุกข์ยากของเขา เวลาเราทุกข์ยากเราก็ทุกข์ยากของเรา แต่เรามีน้ำใจ เรามีน้ำใจ เขาทุกข์ยากเราเห็นใจเขาทั้งนั้น เห็นใจ แล้วช่วยเหลือเขาอย่างไร ช่วยเหลือเขาอย่างไร ช่วยเหลือเขา มันก็มีน้ำใจต่อกัน มีน้ำใจต่อกันนะ เราช่วยเหลือกัน เราทำตัวอย่างของเรา เราไม่เอารัดเอาเปรียบใคร เราไม่ทำให้ใครเป็นแบบอย่าง เราทำคุณงามความดีของเรา ถ้าเราดูแลใจเราก็เป็นแบบนี้

ฉะนั้น ถ้าเราฟังธรรมๆ มันเป็นประโยชน์ไง ทั้งๆ ที่ว่าสิ่งที่เราช่วยเหลือเจือจานกัน เรามีสิ่งใดก็มาเสียสละกันเพื่อความเป็นอยู่ของเขา ถ้าเราทำได้เราก็ทำของเรา แต่ถ้ามันทำไม่ได้ มันทำไม่ได้เพราะว่าดูรัฐบาลสิ รัฐบาลเขาว่าเห็นใจอยู่ เห็นใจอยู่ แต่มันไม่มีทรัพยากรจะทำอย่างไรล่ะ จะทำอย่างไร แต่เราก็ดูแลกันด้วยปัญญา เราดูแลกันด้วยน้ำใจ สิ่งที่มันเป็นเรื่องของสิ่งปัจจัยเครื่องอาศัย มันมีมาตลอด แต่เราจะรักษาหัวใจของเราอย่างไร แล้วเราจะรักษาชีวิตของเราอย่างไร เราจะรักษาความเป็นอยู่ของเราอย่างไร เราทำของเราเพื่อประโยชน์กับเรา

นี้ภายนอกรักษาใจๆ แล้วดูแลอย่างนี้ เวลาคนมีบุญกุศล เวลาอัตคัดขาดแคลนขึ้นมามันจะมีคนมาช่วยเหลือเจือจานทั้งนั้นแหละ มันผ่านไปได้ๆ ถ้ามันผ่านไปได้มันเป็นบุญกุศลของเขา นี่เรื่องของบุญ แต่เวลาฟังธรรมๆ เพื่อหัวใจของเรา เวลาเห็นอย่างนั้นแล้วมันจะย้อนกลับมา เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปเที่ยวสวน เห็นคนเกิด คนแก่ คนเจ็บ คนตาย เราต้องเป็นอย่างนี้ด้วยหรือ

นี่ก็เหมือนกัน เราเห็นภัยพิบัติมันเกิดมาอย่างนี้ตั้งแต่สมัยพุทธกาล แล้วมีมาอยู่อย่างนี้ แล้วจะเป็นไปอยู่อย่างนี้ แล้วชีวิตเราก็จะมาเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะอย่างนี้ เป็นความทุกข์ความยากอย่างนี้ มันย้อนกลับมาไง ถ้าทวนกระแสมันจะย้อนกลับมานะ ย้อนกลับมาจะเป็นประโยชน์ ทั้งๆ ที่ปัจจัยเครื่องอาศัยเป็นประโยชน์กับชีวิตแล้ว น้ำใจของคน ดูสิคนเวลาทำร้ายตัวเองเขาถึงเสียชีวิตไป เห็นแล้วมันสะเทือนใจไหม แล้วเราทุกข์ยากไหม

ทุกข์ทั้งนั้นแหละ เราก็ทุกข์ยาก เราก็ทุกข์ยากอยู่แล้วใช่ไหม แล้วยังเห็นคนอื่นเขาทุกข์ยาก เขาทำลายตัวเขาเอง เราสะเทือนใจไหม แล้วเราสะเทือนใจแล้ว แล้วคนมันเกิดมาจากไหน มันเกิดมาทำไม ทำไมต้องเกิดมาทุกข์ยากขนาดนี้ล่ะ เวลาอุดมสมบูรณ์ เวลามีความสุขทำไมไม่เกิดมาเยอะๆ เรามีแต่ความสุขร่วมกันไง เวลามันทุกข์มันยากทำไมมันเป็นอย่างนั้นล่ะ ผลของวัฏฏะ ถ้าผลของวัฏฏะเราจะมาเกิดอีกไหม เราจะเวียนว่ายตายเกิดอีกไหม มันสะเทือนใจมันย้อนกลับมาแล้ว

ไอ้เรื่องความเป็นอยู่ในชีวิตเราต้องแสวงหาทั้งนั้นแหละ ไม่ใช่กิเลสหรอก มันเป็นหน้าที่ของเรา แต่สิ่งที่ต้องการความปรารถนาของเราไม่ต้องให้มีสิ่งใดกระทบกระเทือนเลย นั่นล่ะกิเลส ถ้ากิเลส ถ้ามันเกิดสิ่งใดเราแก้ไขของเรา ตัณหาความทะยานอยาก สิ่งที่ไม่ต้องการก็ผลักไสมัน มันเป็นกิเลส แล้วกิเลสเพราะกิเลสอันนี้จะทำให้เรามาเจอสภาพแบบนี้ไง ถ้าเราเจอสภาพแบบนี้เราจะชำระล้าง เราจะมีน้ำใจของเราไหม

รสของธรรมชนะรสทั้งปวง ดูพระเราอดอาหารสิ อด ๕ วัน ๑๐ วัน หิวนะในท้องร้องจ๊อกๆ เลย ถ้ามันใช้ปัญญาไล่ไปเรื่อยๆ เวลามันปล่อยวางความหิวมันหายไปไหน ว่างหมด มีความสุข ทั้งๆ ที่กระเพาะก็ไม่มีอาหารอะไรเลย เวลาถ้ามันไล่ไปเรื่อยๆ นะ ลำไส้หิว กระเพาะหิว ปากหิว ความคิดหิว ใครหิว ไล่ไปเรื่อย ไล่ไปเรื่อย พอไล่ไปเลยมันไล่ไปถึงใจ ใจมันปล่อย พอใจมันปล่อยนะโอ้โฮ มันมีความสุขนะ มันว่างมาก

เราจะบอกว่าเวลาพระอดอาหารมันทุกข์ไหม มันก็เหมือนภัยพิบัติมันทุกข์ไหม มันทุกข์ทั้งนั้นแหละ แต่ถ้ามันทำใจได้ มันรักษาใจได้นะ เวลาวิกฤติขึ้นมา คนเราจะมีปัญญาก็ตอนเกิดวิกฤติ เกิดวิกฤติขึ้นมาถ้าปัญญามันตอนนั้น เวลาอยู่สุขสบายอู้ฮู เวลาคุยกันนะทุกคนมีปัญญามาก แก้ไขปัญหาได้ทั้งนั้นแหละ เวลามันเผชิญปัญหาชีวิตมันเอาหัวทิ่มบ่อเลยล่ะ มันไปไหนไม่รอดเลยล่ะ

นี่ก็เหมือนกัน เวลาวิกฤติขึ้นมาแล้วมันเกิดอะไรขึ้น มันทำอย่างไรขึ้น นั่นวิกฤติมันเกิดขึ้น แล้ววิกฤติมันเกิดขึ้นอย่างนี้มันเป็นปัจจัย มันเป็นปัจจัย มันเป็นเครื่องอาศัย ทางชีวิตมันวิกฤติแล้วแหละ แล้วใจเราล่ะ ใจเราล่ะ ธรรมะๆ ทุกคนไม่ต้องการให้มันเกิด แต่มันสภาวะแวดล้อมมันเป็นอย่างนี้ สรรพสิ่งโลกนี้เป็นอนิจจัง มันแปรสภาพของมันอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวเจริญแล้วเสื่อม เสื่อมแล้วเจริญ เวลามันเสื่อมถึงที่สุดแล้วมันก็เจริญของมันขึ้นมา เวลาเสื่อมที่สุดแล้ว ทุกคนเห็นภัยของมันแล้วช่วยกันถนอมรักษาขึ้นมา

ดูสิดูป่าสิ ป่าเวลาเสื่อมโทรมแล้วชาวบ้านช่วยกันรักษานะ ฟื้นฟูมาพากันไปเห็นก็โอ้โฮ ทำไมอุดมสมบูรณ์ไปทั้งนั้น เอ็งไม่มาเห็นตอนมันแห้งแล้งไง เอ็งมาเห็นสิตอนที่มันแห้งแล้ง มันจะเป็นจะตายกันอยู่นั่นน่ะ เพราะเห็นความทุกข์ของมัน เพราะเห็นความแห้งแล้ง ทุกคนกลับมาสามัคคีกัน ทุกคนกลับมารักษาป่าชุมชนของเรา ป่าชุมชนของเรามาฟื้นฟูมา ใครมาเห็น อู้ฮูอุดมสมบูรณ์ อุดมสมบูรณ์เพราะคนมันเข้าใจกัน ไม่มีคนเห็นแก่ตัว ไม่มีคนทำลาย มีแต่คนช่วยกันถนอมรักษา รักษาขึ้นมามันก็เป็นประโยชน์ขึ้นมา

เวลามันเห็นโทษขึ้นมาแล้ว ถ้าเรามีจิตใจ มีสติปัญญา เอาสิ่งนั้นมาเป็นประโยชน์กับเรา มันเป็นอย่างนี้ มันเป็นอย่างนี้ สรรพสิ่งนี้เกิดมาจากคน เขาบอกเลยป่าไม่มีคนมันอยู่ได้ แต่คนไม่มีป่าอยู่ไม่ได้ คนไม่มีป่ามันฟื้นฟูมันได้ แต่ถ้าไม่มีป่า ไม่มีทรัพยากรเลยคนจะอยู่ได้อย่างไร คนต้องอาศัยมัน แต่คนที่เห็นแก่ตัว คนที่ทำลาย ทำลายไปหมด

นี่พูดถึงว่ามันกลับมาสามัคคีกัน กลับมารักกัน เพราะอะไร เพราะมันเห็นโทษไง เห็นโทษในการเวียนว่ายตายเกิดไง ถ้าเวียนว่ายตายเกิดสภาวะแบบนั้น พอคนมันเห็นแก่ตัวมันถึงทำได้อย่างนั้นไง แต่ถ้าคนกลับมาเห็นโทษของมันแล้วช่วยกันรักษา ช่วยกันดูแล มันจะฟื้นฟูกลับมาๆ นั้นเขารักษาป่าภายนอกนะ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่าตัดป่าทั้งป่าไม่ได้ตัดต้นไม้แม้แต่ต้นเดียว ชำระล้างกิเลส กิเลสนี้เป็นนามธรรม ดูสิเวลาเราคิด ความคิดเวลาอารมณ์รุนแรงมันก็เป็นความคิด เป็นนามธรรม เวลาเราตัดมัน ตัดตัณหาความทะยานอยาก ตัดป่าทั้งป่าไม่ได้ตัดต้นไม้แม้แต่ต้นเดียว ป่าสมบูรณ์ อุดมสมบูรณ์แล้วตัดต้นไม้หมดป่าเลย ไม่ติดพันมันไง เป็นเจ้าของป่านั้น ให้ป่านั้นเพื่อประโยชน์กับสังคม ประโยชน์กับโลกใช่ไหม ไม่ต้องใช้ทรัพยากรอย่างนั้นเลย

ทรัพยากรอย่างนั้นมันเป็นปัจจัยเครื่องอาศัย มันต้องให้ร่างกายนี้ได้ใช้ประโยชน์ แต่หัวใจที่นามธรรมๆ สัจธรรม มันเป็นอกุปปธรรมๆ สัจธรรมอันนั้น มันไม่เกี่ยวกับโลกเลย มันเหนือโลก มันเหนือโลก เหนือวัฏฏะ แล้วมันไม่กลับมาเวียนในวัฏฏะอีกแล้ว

ถ้ามันไม่เวียนในวัฏฏะ แต่มันก็เกิดจากวัฏฏะ เกิดจากวัฏฏะ เพราะเราเกิดมาในวัฏฏะมันเกิดจากสมมุตินี่แหละ เกิดจากความเห็นสภาวะแวดล้อม เราเห็นแต่ความทุกข์ความยาก มันเห็นภัย เห็นภัยขึ้นมาย้อนกลับมา เกิดมาทำไม เกิดมาเพื่ออะไร เกิดมาทุกข์ยากอย่างนี้ใช่ไหม อุดมสมบูรณ์ก็เห็นมาแล้ว ทุกข์ยากก็เห็นมาแล้ว แต่ไม่มีคติธรรมสอนตัวเองเลย ไม่มีคติธรรม ไม่มีสิ่งใดเป็นประโยชน์กับเราเลย

มันควรเป็นประโยชน์กับเราบ้างสิ ถ้ามันเป็นประโยชน์กับเรา เราก็อยู่ในบ้านนี่แหละ เราก็อยู่ในร่างกายนี้แหละ จิตใจก็อยู่ในร่างกายนี้แหละ แต่ปัญญาที่มันสูงขึ้น ปัญญาที่มันเห็นโทษ ไอ้จิตใจเราอยู่ในร่างนี่แหละ อยู่ในบ้านนี่แหละ แต่มันจำเจ มันไม่เป็นประโยชน์อะไรเลย นั่นล่ะคือเขาไม่มีปัญญา มีปัญญาสภาวะแวดล้อมต่างๆ เกิดขึ้นเรามีปัญญานะ เวลาความทุกข์ความยากน่าเห็นใจมาก เวลาเราคิดสิคนจนตรอก ทุกข์จนไม่มีทางออก แล้วทำร้ายตัวเองฆ่าตัวตาย ทุกข์จนไม่มีทางออกมันฆ่าตัวตาย

เราคิดถึงคนที่จะคิดฆ่าตัวตายคือมันจนมุม เราคิดถึงอารมณ์นั้นไงแล้วมันทุกข์ มันเห็นแล้วมันสงสาร สงสารมาก แต่สงสารแล้วมันก็เป็นใจของเขา ไปปลุกปลอบเขาขนาดไหนเขาก็รู้กับเราไม่ได้ อย่าเผลอนะเผลอทำลายตัวเองทันที ถ้าคนจะคิดทำอย่างนั้น เพราะมันเป็นความคิดอยู่ภายในไง แล้วเวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงธรรม มันทิ่มเข้าไปในใจ จิตใต้สำนึกอันนั้นน่ะมันต้องไปเปิดตรงนั้น มันต้องไปสะเทือนตรงนั้น สะเทือนความคิดในใจ

ถ้ามันสะเทือนความคิดในใจ ถ้าเขาคิดของเขาได้ขนพองสยองเกล้า ขนลุกหมดเลย แล้วพอมันคิดได้นะ เอ๊ะ เราคิดอย่างนี้ได้อย่างไรล่ะ ทำไมเราคิดอย่างนี้ได้อย่างไร เวลามันคิดได้นะ แต่ถ้ามันคิดไม่ได้อย่าเผลอนะต้องเฝ้าเลย ต้องดูแลกันเลย พูดถึงว่ามันน่าเห็นใจ ความทุกข์อย่างนั้นน่าเห็นใจมาก

ฉะนั้น ถ้าน่าเห็นใจมากเราฟังธรรมๆ เพื่อเหตุนี้ไง ให้อย่าหัวใจเราไปจนมุม อย่าไปจนมุมให้กิเลสมันเหยียบย่ำ เราจะมีทางออกของเรา เราจะมีศีล มีสมาธิ มีปัญญา รักษาหัวใจนี้ไว้ ทุกข์ไหม ทุกข์ พระเราก็ทุกข์ เวลาหลวงตาท่านพูดประจำนะ โยมว่าโยมทุกข์ยากนะ อย่าเพิ่งคุยนะว่าทำงานหนักทุกข์ยากนะ ดูนักปฏิบัติสิ เวลานั่งสมาธิไป ๒๔ ชั่วโมง โอ้โฮ มันทนขนาดไหน

งานของพระหนักกว่าของโยมมากเลย แต่เป็นงานนั่งเฉยๆ หายใจเข้าและหายใจออก แต่มันทุกข์มาก แล้วมันทุกข์มากเพราะต้องเอาชนะตัวเองชนะให้ได้ไง ไอ้เราก็ว่าเราทุกข์ๆ เห็นพระนะอู้ฮู เช้าขึ้นมานะมีแต่คนส่งเสริมเนื้อนาบุญของโลก เขาได้หว่านพืชหว่านผลของเขา บุญกุศลมันเป็นหัวใจของเขา เนื้อนานั้นเป็นที่เพาะสิ่งที่มันเกิดความงอกงาม ความดีงาม ถ้าพระนั้นเป็นอย่างนั้น

ฉะนั้น ถ้าพระมีสติปัญญานะ งานของเรายังมี ฉันภัตกิจ ทำภัตกิจเสร็จแล้วเราจะต้องค้นหาหัวใจของเรา งานของเราๆ เราก็รู้อยู่แล้วบริษัท ๔ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เราเป็นอุบาสก เราเป็นอุบาสิกา แล้วเราเสียสละสถานะของความเป็นอุบาสก อุบาสิกามาเป็นนักพรต มาเป็นนักบวช มาเป็นภิกษุ เป็นภิกษุ ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร เป็นนักรบแล้วมันต้องให้สมชื่อกับความเป็นนักรบ ให้สมชื่อกับความเห็นภัยในวัฏฏะ ให้สมชื่อกับความดำรงชีพ ให้เป็นผู้ตื่น ผู้ตื่น ผู้มีการกระทำ ทำอย่างนี้ ฟังธรรมๆ เตือนใจๆ อยู่อย่างนี้ เวลาปากมันได้อาหารนะ ปัจจัย ๔ เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง หัวใจว้าเหว่ๆ หัวใจทุกข์มาก

ฉะนั้น เวลามาวัดมาวา ครูบาอาจารย์ที่มีหลักใจท่านจะน้ำใจของคนๆ หัวใจอันนั้น หัวใจอันนั้นควรจะให้มีที่พึ่ง หัวใจอันนั้นให้มันชื่นบานขึ้นมา หัวใจอันนั้นยืนอยู่ได้ แล้วเผชิญกับวิกฤติ เผชิญกับโลก เผชิญกับมัน เดี๋ยวก็ผ่านไป เดี๋ยวก็ผ่านไป ให้มีน้ำใจต่อกัน ให้มีน้ำใจต่อกัน รักษาดูแลกัน อย่าเอารัดเอาเปรียบกัน ทุกข์ก็ทุกข์ด้วยกันทั้งนั้นแหละ แบ่งกัน เจือจานกันเพื่อประโยชน์กับเรานะ ประโยชน์กับเราก็คือประโยชน์ในหัวใจได้สร้างบุญสร้างกุศลให้มันมีหลักมีเกณฑ์ขึ้นมา เพื่อประโยชน์กับใจดวงนี้ เอวัง

ลา